เข้าสู่ระบบ
รู้จักโรคไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัด เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
 |
 |
 |
 |
โรคไข้หวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสของระบบทางเดินหายใจตอนบน ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่นั้นจะเป็นการติดเชื้อไวรัสที่ร้ายแรงกว่าและมีอาการยาวนานกว่าและอาจมีไข้ด้วย
อาการของโรค
ผู้ป่วยมักจะมีอาการของโรคไข้หวัดเป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ดังนี้:
• เจ็บคอ
• น้ำตาไหล
• น้ำมูกไหลและมีความข้นมากขึ้นตามระยะของไข้หวัด
• จาม
• ไอ
• ปวดหัว (มักจะเกิดจากการคัดจมูก)
• มีไข้เล็กน้อย
• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและอ่อนเพลียเล็กน้อย
อาการของไข้หวัดใหญ่จะคล้ายคลึงกัน แต่มักจะเป็นนานกว่าดังนี้:
• มีไข้สูง เหงื่อออกและหนาวสั่น
• ไอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและปวดหัวมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
• อาจจะมีอาการปวดท้อง ท้องร่วงและอาเจียน โดยเฉพาะใน
;void(0);)
สาเหตุของโรค
ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่แพร่ผ่านการไอ จามหรือติดต่อโดยตรงจากผู้ป่วยคนอื่น ไข้หวัดนั้นเกิดได้จากไวรัสกว่าหลายร้อยสายพันธุ์เช่น ไรโนไวรัส โคโรนาไวรัสหรืออเดโนไวรัส ส่วนไข้หวัดใหญ่จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น A B และ C
เด็กและผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีผู้คุมกันอ่อนแอ (เช่นป่วยหรือมีความเครียด) มักจะมีโอกาสเป็นโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ง่ายกว่ากลุ่มคนอื่น ๆ และอาจมีการติดเชื้อที่ร้ายแรงกว่า
การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ
• แต่ดั้งเดิมแล้วมีการใช้กระเทียมเพื่อบรรเทาอาการไอของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่และหลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการคัดจมูกหรือหลอดลมอุดตันและ/หรือน้ำมูกไหล
• นอกจากนี้แต่ดั้งเดิมแล้วยังมีการใช้ฮอสแรดิชเพื่อบรรเทาอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจตอนบนที่เกิดจากการไข้หวัด และอาจจะได้ผลมากเป็นพิเศษหากมีอาการคัดจมูก
;void(0);)
• วิตามินซีเป็นสิ่งสำคัญที่ต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและช่วยลดความร้ายแรงและระยะเวลาของอาการโรคไข้หวัด
• รับประทานวิตามินซีไปพร้อมกับสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันเช่นวิตามินอีและบีหก ซิงค์และเบต้าแคโรทีนซึ่งจะช่วยสร้างวิตามินเอ
• สมุนไพรเอ็กไคนาเชียสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดระยะเวลาที่เป็นโรคไข้หวัดและลดความร้ายแรงของอาการได้ และแต่เดิมมักถูกใช้บรรเทาอาการไอและเจ็บคอที่เกิดจากโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่
• แต่เดิมแล้วฟ้าทะลายโจรมักถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการของโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจตอนบนติดเชื้อเล็กน้อยเช่นไข้หวัด ซึ่งสังเกตได้หากผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอ ไอ (และมีเสมหะเข้มข้น) มีไข้และอ่อนเพลีย
• มักมีการใช้สารสกัดน้ำมันมะกอกเพื่อบรรเทาอาการไอ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เจ็บคอและช่วยลดไข้
• น้ำมันตับปลาค้อดเป็นแหล่งวิตามินเอชั้นดีซึ่งจะช่วยบำรุงสุขภาพของเยื่อบุทางเดินหายใจซึ่งเป็นปราการป้องกันการติดเชื้อด่านแรก
อาหารการกินและลักษณะการใช้ชีวิต
• จัดการกับโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่อย่างระมัดระวัง โรคไข้หวัดใหญ่นั้นอาจนำไปสู่โรคที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าเช่นโรคปอดบวมได้หากไม่ได้รับการรักษา แม้จะยังไม่มี ”ยารักษา” แบบชัดเจน แต่การพักผ่อนบนเตียง ดื่มน้ำเยอะๆ และรับประทานอาหารเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้หายได้เร็วขึ้น
• การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการรักษาระบบภูมิคุ้มกัน (เช่นซิงค์ วิตามินซีและอี) อาจทำให้คุณเสี่ยงติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจตอนบนได้ ดังนั้นจงจำไว้ว่าควรจะรับประทานผัก ผลไม้ โฮลเกรน ถั่วและเมล็ดพืชในมื้ออาหารของแต่ละวัน
• นักบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติมักจะสนับสนุนให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเนื่องจากเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำให้ร่างกายสร้างน้ำมูกมากขึ้น
• เครื่องทำความชื้นหรือรูปแบบการสูดไอน้ำร้อนอื่น ๆ อาจช่วยในการบำรุงให้เยื่อเมือกบุผิวของจมูก ลำคอและปอดมีความชุ่มชื้นและบรรเทาการอุดตัน การดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ นั้นก็มีประโยชน์ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้
• ถ้าคุณสูบบุหรี่ จงหยุดสูบเสีย บุหรี่นั้นทำลายซีเลียซึ่งเป็นขนเล็ก ๆ ที่บุทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันที่ช่วยกรองไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้ามาในทางเดินใจ
สิ่งสำคัญที่ควรจำ
ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีหากว่า:
• เป็นไข้หวัดนานกว่า 7 วัน
• น้ำมูกมีสีเหลือง เขียว ชมพูหรือสีสนิม
• มีอาการไอรุนแรงและเป็นเวลานานและมีอาการหายใจไม่ทัน หายใจติดขัด เจ็บหรือแน่นหน้าอก มีอุณหภูมิสูง ปวดหัว ปวดหู ปวดหลังและปวดขา อ่อนเพลีย มีผื่นหรือน้ำหนักลด
 |
 |
 |
|
|
|
|
