คุณรู้สึกหงุดหงิดและสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมบางครั้งคุณจึงปรับเปลี่ยนนิสัยแบบเดิมๆ ของคุณไม่ได้ ใจเย็นก่อน เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมใช้เวลามากกว่าที่คุณคิด
นิสัยในแต่ละวันนั้นเป็นประโยชน์ในการสร้างลำดับของกิจกรรมในแต่ละวันที่แสนจะยุ่งวุ่นวาย
กระนั้นคุณก็อาจจะมีนิสัยที่น่ารำคาญหนึ่งหรือสองอย่าง หรือมากกว่านั้นที่อาจเป็นภัยต่อทั้งสุขภาพและความเป็นอยู่ของคุณ
หากคุณพยายามจะดัดนิสัยที่แก้ยากนั้นแล้วทำไม่สำเร็จ คุณอาจจะสงสัยว่าต้องใช้เวลานานอีกแค่ไหนจึงจะปรับเปลี่ยนนิสัยเหล่านั้นให้หายไปได้แบบปลิดทิ้ง
ให้ลองใช้กฎ 21 วันที่มาจากหนังสือจิตวิทยายุคปี 2505 ที่ชื่อว่า Psycho-Cybernatics ดู หนังสือเล่มนี้กล่าวว่าการปรับเปลี่ยนนิสัยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 21 วันในการสลัดภาพในหัวเก่าๆ ออกไปแล้วสร้างภาพใหม่ขึ้นมา
งานวิจัยล่าสุดที่สำรวจกลุ่มคน 96 คนที่ตีพิมพ์ในวารสาร The European Journal of Social Psychology พบว่าต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ยถึง 66 วันในการปรับนิสัยใหม่ เช่น การรับประทานผลไม้ในช่วงเที่ยงวันหรือวิ่งออกกำลังเป็นเวลา 15 นาทีต่อวัน แต่ในงานวิจัยนั้น จำนวนวันที่แท้จริงนั้นมีตั้งแต่ 18 ถึง 254 วัน ซึ่งบ่งบอกว่าอาจใช้เวลาสั้นๆ หรือยาวมากก็ได้
ฉันจะปรับเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีของตัวเองได้อย่างไร?
มีหลายวิธีที่จะขจัดนิสัยเก่าๆ ออกไป แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือแทนที่ด้วยนิสัยที่ดี หากว่าคุณกำลังพยายามระงับไม่ให้ตัวเองอยากของหวานหลังอาหาร ให้ลองดื่มน้ำแก้วใหญ่และผลไม้ซักชิ้นดักไว้ก่อน
เมื่อทำเช่นนั้นคุณอาจจะพบว่า ความอยากนั้นลดทอนลงไป และคุณอาจไม่ได้อยากกินของหวานนั้นแล้ว หากคุณกำลังพยายามหาทางไม่ให้ตนเองมีนิสัยชอบจับใบหน้า ให้ลองจับไหล่หรือคอแทน การทำเช่นนี้จะทำให้คุณตระหนักถึงนิสัยที่ไม่ดีนั้นๆ และทำให้แก้ได้ง่ายขึ้น
คุณอาจจะร่วมมือกับเพื่อนในการแก้นิสัยของกันและกันได้ เช่น การกัดเล็บหรือการสบถ ลองจับคู่แล้วแข่งกันดู!
กระนั้นก็อย่าถอดใจหากยังแก้นิสัยพวกนั้นไม่ได้หลังผ่านไป 21 วัน ความเป็นจริงคือ ไม่มีเวลาที่แน่นอนในการแก้นิสัยเหล่านั้น และการเส้นตายชัดเจนทำให้เรายิ่งรู้สึกว่า ล้มเหลวง่ายขึ้นไปอีกหากแก้นิสัยไม่ดีของคุณไม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด
นิสัยนั้นเป็นสิ่งที่ยากที่จะเปลี่ยนเพราะเกิดจากการกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือพฤติกรรมที่แทรกเข้าไปในชีวิตแต่ละวันของเราโดยที่เราไม่ทันยั้งคิดอะไร
การปล่อยให้สมองของเรานั้นทำงานของมันเองสำหรับกิจกรรมที่ต้องทำซ้ำๆ แปลว่า เรานั้นจะมีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาในแต่ละวัน
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องไม่ดี และเป็นเหตุผลว่าทำไมการแก้นิสัยไม่ดีนั้นเป็นเรื่องที่คุ้มค่า เพราะแม้ว่าจะไม่มีจำนวนวันที่แน่นอนที่ต้องใช้ในการแก้นิสัย แต่ถ้าแก้ได้แล้วก็ยากที่คุณจะกลับไปเป็นอีก
เราควรจำไว้ด้วยว่า ทุกคนนั้นมีนิสัยไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่แค่เราคนเดียว งานวิจัยระบุว่า นิสัยที่ไม่ดีเป็นการตอบสนองโดยอัตโนมัติต่อสิ่งรอบตัวจากการทำการกระทำซ้ำในแต่ละวัน อาจจะเกิดมาจากความเบื่อหน่าย ความเครียด ดังนั้นการหลีกเลี่ยงสิ่งดังกล่าวจะช่วยให้คุณแก้นิสัยได้ในที่สุด
มีอะไรบ้างที่นับว่าเป็นนิสัยไม่ดี?
หากคุณไปกูเกิ้ลหา “นิสัยที่ไม่ดี” คุณจะได้ผลการค้นหาเป็นร้อยๆ เช่น
กัดเล็บ
ดึงผมเล่น
ผัดวันประกันพรุ่ง
สบถ
พูดคุยขณะที่เคี้ยวอาหารอยู่ในปาก
เคี้ยวผมเล่น
อย่างไรก็ตาม นิสัยที่ไม่ดีก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวด้วย การนอนตื่นสายอาจเป็นนิสัยที่ไม่ดีสำหรับบางคน แต่อาจเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับคุณ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาว่า จะจัดการนิสัยไม่ดีอะไร ให้มองหานิสัยที่มีผลเสียต่อคุณ
นิสัยหรือการเสพติด?
คุณอาจต้องพิจารณาด้วยว่า ตัวเองกำลังต่อสู้กับนิสัยที่ไม่ดีหรือการเสพติด
การรู้ถึงความแตกต่างจะช่วยประหยัดเวลาและความเครียดให้คุณได้มาก พฤติกรรมเสพติด เช่น การสูบบุหรี่ การพนันและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นอะไรที่แก้ได้ยากกว่า
วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ได้ถึงความแตกต่างคือ ให้ถามคำถามตนเองง่ายๆ ว่า
“ฉันจะอยู่โดยปราศจากนิสัยนี้ได้ไหม และถ้าแก้ได้ จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายฉันหรือไม่?”
เมื่อคุณพยายามหยุดพฤติกรรมเสพติด ร่างกายของคุณอาจจะประสบกับภาวะลงแดงที่เห็นได้ชัด เช่น การสั่น เหงื่อออกหรือคลื่นไส้และอาเจียน
นิสัยที่ไม่ใช่การเสพติดนั้นแก้ไขได้ง่ายกว่ามาก ขณะที่การเสพติดจะใช้เวลานานกว่าและอาจต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
เข้าสู่ระบบ
;void(0);)
;void(0);)
