อยากวิ่งให้เร็วขึ้นและมีสมรรถภาพดียิ่งขึ้นหรือเปล่า? มีงานวิจัยแนะนำว่าคุณควรจะยิ้มรับวันใหม่เพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการวิ่งออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้น
การวิ่งและความสุข
มีงานหลายชิ้นที่ศึกษาว่า การออกกำลังกาย เช่น การวิ่ง จะเพิ่มระดับความสุขให้เราได้อย่างไร
ประโยชน์หลายอย่างที่มาพร้อมกับการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เช่น มีพลังงานมากขึ้น นอนหลับดีขึ้น และมีความรู้สึกสดใส และมีความมั่นใจในตนเอง ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ปรารถนา
และอย่าลืมสิ่งที่เรียกว่า Runner’s High หรือ “ความฟินของนักวิ่ง” ที่มาพร้อมกับการออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานด้วย
แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า การมีความสุขนั้น ทำให้เราเป็นนักวิ่งที่ดีได้จริงหรือ? สิ่งเรียบง่ายที่เรียกว่า รอยยิ้มจะมาช่วยในเพิ่มสมรรถภาพในการวิ่งได้จริงๆ หรือ?
การยิ้มขณะวิ่งช่วยเสริมสมรรถภาพ
ยุทธศาสตร์ทางจิตวิทยานั้นเป็นส่วนสำคัญต่อการฝึกสมรรถภาพความอดทนและสามารถมีผลต่อประสิทธิภาพในการวิ่งหรือ Running Economy ด้วย และยังเป็นเครื่องบ่งชี้ความแตกต่างทางด้านสมรรถภาพร่างกายระหว่างนักกีฬารายต่างๆ ที่ดูแข็งแรงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เมื่อวัดกันด้วยเกณฑ์ทางเทคนิคอื่นๆ
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารจิตวิทยาด้านกีฬาและการออกกำลังกายเปรียบเทียบผลของการยิ้มและการทำหน้าบึ้งที่มีต่อประสิทธิภาพในการวิ่ง
แม้งานวิจัยจะใช้กลุ่มตัวอย่างไม่มาก แต่ก็พบว่า ผู้ร่วมทำวิจัยกว่าร้อยละ 58 นั้นมีประสิทธิภาพในการวิ่งมากที่สุดในตอนที่ยิ้มเมื่อเทียบกับตอนทำหน้าบึ้ง
นักวิ่งที่ทำหน้าบึ้งระหว่างที่วิ่งนั้นมีคะแนนสูงกว่าในด้านระดับความพยายามที่รับรู้ได้เมื่อเทียบกับนักวิ่งที่วิ่งด้วยรอยยิ้มและความรู้สึกผ่อนคลาย
เรายังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า กลไกใดของร่างกายที่ทำให้การยิ้มเพิ่มสมรรถภาพในการวิ่ง แต่เป็นไปได้ว่าการวิ่งนั้นช่วยให้นักวิ่งรู้สึกผ่อนคลายและช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยหันเหความสนใจจากความรู้สึกไม่สบายใดๆ ที่นักวิ่งมี
วิธีปั้นรอยยิ้มด้วยเทคนิค S.M.I.L.E ขณะที่คุณวิ่ง
Smile (ยิ้ม) - การยิ้มนั้นเป็นสิ่งที่ติดต่อกันได้ ถ้าคนอื่นเห็นคุณยิ้ม เขาก็อาจจะยิ้มตอบกลับมา ทำให้คุณอยากยิ้มต่อไปอีก ยิ้มเข้าไว้เพราะคุณกำลังทำเพื่อเพื่อสุขภาพพลานามัย ยิ้มเข้าไว้เพราะคุณแข็งแรงพอที่จะวิ่ง ยิ้มเข้าไว้เพราะคุณได้มีโอกาสไปสูดหายใจข้างนอกให้เต็มปอดขณะที่คนอื่นได้แต่เดินน่อง ยิ้มไปเลยไม่ต้องมีเหตุผล!
Music (เพลง) – เลือกเอาเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกดีหรือกระฉับกระเฉงมาใส่ในโทรศัพท์หรือเครื่องเล่น MP3 แล้วเปิดฟังให้เพลิดเพลินขณะที่วิ่ง เพลงที่มีท่วงทำนองและจังหวะที่เหมาะสมจะทำให้การวิ่งเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานยิ่งขึ้นและเป็นเหตุผลให้คุณยิ้มได้ด้วย แต่อย่าลืมลดระดับเสียงไม่ให้ดังจนเกินไปล่ะ
Ignore (เมิน) – ใบหน้าบึ้งตึง บูดบึ้งหรือแสดงออกว่าเจ็บนั้นจะทำให้เราเจ็บตัวได้จริงในที่สุด ว่ากันว่าการแสดงออกทางสีหน้านั้นมีผลต่อประสบการณ์ทางอารมณ์ในสถานการณ์ต่างๆ ดังนั้น ให้เข้าถึงความสงบสุขที่มาพร้อมกับการวิ่งและดีใจที่คุณได้ทำอะไรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจดีกว่า จงอดทนและยิ้มต่ออุปสรรคและความเจ็บปวด หาข้อดีและเมินสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่สบาย (อย่างมีเหตุผลด้วยล่ะ)
Loosen up (ผ่อนคลาย) – ในวงการนักวิ่งมาราธอนมืออาชีพ การพักผ่อนขณะที่วิ่งนั้นว่ากันว่ามีผล (ส่วนหนึ่ง) ทำให้ใช้ออกซิเจนในการวิ่งน้อยลง การผ่อนคลายจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและการกระตุ้นกล้ามเนื้อ ดังนั้น การผ่อนคลายจึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ควรหมั่นฝึกฝนจนช่ำชอง การรู้สึกผ่อนคลายนั้นยังเป็นเหตุผลที่ดีที่จะทำให้เรายิ้มได้อีกด้วย
Escape (หลบเลี่ยง) – การวิ่งนั้นเป็นวิธีหลบเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายใจต่างๆ ที่ดี ดังนั้นขณะที่วิ่งให้คิดแต่สิ่งที่ดีๆ ที่ชวนให้เรายิ้มออก ผลดีของการยิ้มนั้นจะได้ผลยิ่งขึ้นหากรอยยิ้มนั้นมาจากใจจริง ใช้จินตนาการให้เต็มที่ เพราะการมองโลกในแง่ดีจะช่วยผลักดันให้เราก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง
อยากได้คำแนะนำแบบนี้อีกไหม? วิ่งมาที่ศูนย์การวิ่งของ Blackmores เลยเพื่อรับคำแนะนำ กลเม็ดและวิธีการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณวิ่งได้ดียิ่งขึ้น!
ที่มา: Brick NE et al. The effects of facial expression and relaxation cues on movement economy, physiological, and perceptual responses during running. Psychology of Sport and Exercise. 2018: 34; 20-28.