ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนที่ฉันรู้จักจะเลิกบริโภคน้ำตาลกันหมดแล้ว มีข้อมูลมากมายทั้งในเว็บไซต์ หนังสือ และโปรแกรม 8 หรือ 12 สัปดาห์ ที่ทั้งหมดอุทิศเพื่อช่วยให้คุณหลุดพ้นจากสารพัดของหวาน
ผู้คนจำนวนมากเลิกน้ำตาลเพื่อช่วยขจัดน้ำหนักส่วนเกิน 2-3 กิโลกรัม ควบคุมความอยากของหวาน หรือเพื่อเพิ่มระดับพลังงานของพวกเขา แต่ผลกลับกลายเป็นว่า การตัดขาดจากน้ำตาลยังอาจช่วยทำให้ผิวเปล่งประกายความอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในช่วงหลายสิบปีมานี้ การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปมีความสัมพันธ์กับสภาวะไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพหลายประการ ได้แก่ ภาวะน้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วน การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ฟันผุ โรคเก๊าท์ และเบาหวาน
นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำตาลอาจมีผลโดยตรงต่อความแก่ชรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำตาลอาจมีผลให้ต่อผิวของเราแก่ก่อนวัยผ่านทางกระบวนที่เรียกว่าไกลเคชั่น (glycation)
กระบวนการไกลเคชั่นเกิดขึ้นเมื่อน้ำตาลทำปฏิกิริยากับโปรตีนในร่างกาย และก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘การเชื่อมข้ามสายโมเลกุล’ (cross-links) ระหว่างคอลลาเจน และเส้นใยอิลาสติน
คอลลาเจน อิลาสติน กับผิวหนัง
คอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินค้ำพยุงผิวชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นกลางของผิวหนังที่ทำหน้าที่ให้สารอาหารและเป็นโครงสร้างค้ำพยุงแก่ชั้นผิวที่อยู่ด้านบน
คอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินในชั้นหนังแท้มักจัดเรียงตัวในโครงสร้างแบบถักทอซึ่งทำให้ชั้นหนังแท้มีความสามารถในการยืดขยายและหดตัว
ลักษณะของผิวที่ดูอ่อนเยาว์นั้นขึ้นอยู่กับการรักษาสภาพโครงสร้างของเส้นใยเหล่านี้และความสามารถในการคงความยืดหยุ่นและความสามารถในการซ่อมแซม
การเชื่อมข้ามสายโมเลกุล สาร AGEs และริ้วรอย
การเชื่อมข้ามสายโมเลกุลของคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินทำให้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ผ่านทางกลไกตามปกติของร่างกาย
ยิ่งเกิดการเชื่อมข้ามสายโมเลกุลมากเท่าใด ยิ่งเป็นการยากสำหรับร่างกายในการซ่อมแซมและดูแลเนื้อเยื่อเหล่านี้มากเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินอาจสูญเสียรูปร่าง พันกัน และหนาตัวขึ้นจนกลายเป็นมัดใหญ่ และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเหล่านี้เองที่ส่งผลให้เกิดเป็นริ้วรอยที่ปรากฏบนผิวหนัง
หลังจากนั้นการเชื่อมข้ามสายโมเลกุลอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อไปและก่อตัวเป็นการเชื่อมข้ามสายโมเลกุลอย่างถาวรซึ่งเรียกว่า ‘Advanced Glycation End Products’ หรือ AGEs
ดังนั้น เพื่อสุขภาพผิวของคุณ จึงอาจคุ้มค่าที่จะยอมไม่รับประทานเค้กเป็นของว่างในบ่ายวันนี้ หรือบอกผ่านของหวานหลังมื้อเย็นไปเลย
การลดสาร AGEs
สาร AGEs ที่ก่อตัวอยู่ก่อนแล้วอาจพบได้ในอาหารที่ปรุงด้วยการปิ้ง การทอด หรือการย่าง (ลองคิดถึงผิวกรอบสีเหลืองทองบนขนมปังของคุณ หรือหนังไก่ย่างของคุณ)
คุณสามารถต่อสู้กับสิ่งนี้ได้ด้วยการใช้กระบวนการปรุงอาหารที่ใช้น้ำ เช่น การต้มและการนึ่ง เนื่องจากวิธีเหล่านี้ก่อให้สาร AGEs น้อยกว่า
สมุนไพรบางชนิด เช่น อบเชย กานพลู ออริกาโน ขิง และกระเทียม อาจช่วยลดการผลิตสาร AGEs ลงได้ จึงอาจคุ้มค่าที่จะลองเพิ่มสมุนไพรเหล่านี้ในมื้ออาหารของคุณให้บ่อยครั้งที่สุด
เข้าสู่ระบบ
;void(0);)
;void(0);)
