อาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้นไม่ได้ส่งผลต่อแค่ร่างกายเท่านั้น ยังส่งผลต่ออารมณ์ และสมองของคนเราอีกด้วย อย่างที่ Sophie Scott นักเขียนชาวออสเตรเลียผู้คิดค้นทฤษฎีพลังของสารอาหารที่มีผลต่อสภาวะอารมณ์ ได้เขียนไว้ในหนังสือว่า “สิ่งที่คุณรับประทานมีผลกระทบอย่างมากต่อสภาวะอารมณ์ของคุณ เพราะทุกอย่างที่คุณรับประทานจะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนของสมอง และการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถทำให้เรารู้สึกเศร้าหรือสุข ผ่อนคลายหรือเครียดได้ ” โดยเธอได้กล่าวถึงข้อปฏิบัติสำคัญของการพัฒนาอารมณ์ รูปร่างภายนอก และความสุขให้มากขึ้นไว้ดังนี้
1. ใช้ผักและผลไม้ที่มีสีสันสดใสในอาหารจานหลัก
ลองนึกถึงผักปวยเล้งสีเขียวเข้ม พริกหยวกสีแดง และบลูเบอร์รีดูสิ ผักผลไม้เหล่านี้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งนักโภชนาการแนะนำให้รับประทานผัก 5 ส่วนและผลไม้ 2 ส่วนทุกวัน
2. อาหารว่างที่ดีต้องมีทั้งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต
การรับประทานโปรตีนจะช่วยเพิ่มฮอร์โมน 2 ชนิดในสมองที่ทำให้รู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิมากขึ้น ลองเลือกรับประทานอาหารว่าง เช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ (ให้โปรตีน) ใส่แอปเปิลสับ (ให้คาร์โบไฮเดรต) หรือขนมปังธัญพืช (ให้คาร์โบไฮเดรต) ทาเนยถั่วบางๆ (ให้โปรตีน)
3. เอาใจใส่ในการกิน
รับประทานอาหารมื้อย่อยๆ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ โดยแต่ละมื้อไม่ควรห่างเกิน 3 ชั่วโมง รับประทานอย่างช้าๆ และเพลิดเพลินไปกับอาหารที่กำลังรับประทาน ขนมหวานคำสุดท้ายมักจะไม่อร่อยเท่ากับคำแรก ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงจึงควรรับประทานขนมหวานหรืออาหารจานโปรดแต่น้อย
4. เลือกไขมันดีเพื่อไล่ไขมันร้าย
การรับประทานน้ำมันมะกอกและน้ำมันที่มีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เช่น น้ำมันอาโวคาโด ในปริมาณน้อยนั้นไม่ทำให้หลอดเลือดแดงอุดตัน แต่จะช่วยเสริมให้สุขภาพดีขึ้น รวมทั้งการรับประทานถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่างๆ และอาโวคาโด ซึ่งมีไขมันไม่อิ่มตัวในปริมาณสูง
5. ดื่มน้ำให้มาก
ถ้ารู้สึกเหนื่อยล้าหรือไม่สดชื่นเท่าที่ควร อาจเกิดจากร่างกายขาดน้ำ คุณจึงพกขวดน้ำดื่มสะอาดติดตัวไว้ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ที่บ้าน ในรถ และดื่มน้ำบ่อย
6. รับประทานดาร์คช็อคโกแลตบ้างเป็นครั้งคราว
หลายๆ คนรับประทานช็อคโกแลตเพื่อช่วยให้อารมณ์ดี ซึ่งก็มีงานวิจัยสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าการรับประทานช็อคโกแลตจะช่วยให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น ดาร์คช็อคโกแลตสามารถกระตุ้นการสร้างเอนดอร์ฟีนซึ่งเป็นสารแห่งความสุข และยังมีเซโรโทนินซึ่งช่วยคลายความกังวล ควรเลือกดาร์คช็อคโกแลตที่มีปริมาณโกโก้ร้อยละ 70 ขึ้นไปและรับประทานแต่พอดี เพราะถึงแม้ช็อคโกแลตจะช่วยให้อารมณ์ดีแต่ก็ประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
รู้หรือไม่ว่า?
ชาเขียวก็ช่วยกระตุ้นให้อารมณ์ร่าเริงได้ ชาเขียวมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
*หนังสือ Roadtesting Happiness โดย Sophie Scott จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ ABC Books และจัดจำหน่ายโดย Harper Collins
รับประทานมากไปก็ไม่ดี รับประทานน้อยไปก็ไม่ดี เพราะฉนั้นควรทานแต่พอดี เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและปรับสมดุลให้อารมณ์สดใสได้ตลอดวัน
และอย่าลืมหันมาใส่ใจตนเองกับการกินอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ โดยหาวิตามินรวมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกายนะคะ
เข้าสู่ระบบ
;void(0);)
