อาหารทะเลนั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า ซึ่งผลวิจัยล่าสุดของ Andrew Cate พบว่าการรับประทานปลาที่มีกรดโอเมก้าสูง อาจช่วยป้องกันอาการเจ็บหน้าอกในผู้ชายได้
การศึกษาจากประเทศเดนมาร์กในปี พ.ศ. 2552 ค้นพบว่าการรับประทานกรดไขมันโอเมก้า-3 ในผู้ชาย นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ คือ ลดความเสี่ยงต่ออาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกรวมๆ ของกลุ่มความผิดปกติและอาการเช่น เจ็บหน้าอกขณะพัก และอาการเจ็บแน่นหน้าอก
และพบว่าการรับประทานกรดไขมันโอเมก้า—3 มากกว่า 400 มิลลิกรัมต่อวันช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการโรคหัวใจในผู้ชายได้ถึงร้อยละ 15
โดยประเภทของกรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นมี 3 ชนิดที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่
- อีพีเอ (Eicosapentaenoic acid: EPA)
- ดีพีเอ (Docosapentaenoic acid: DPA)
- ดีเอชเอ (Docosahexaenoic acid: DHA)
ดูแลสุขภาพหัวใจ ด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3
1. ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
2. ช่วยรักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ
3. ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบหลอดเลือดด้วยการคงความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
4. มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
เคล็ดไม่ลับสำหรับการรับประทานกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่เพียงพอ
นอกจากประโยชน์ทางด้านสุขภาพแล้ว ปลา และ อาหารทะเลยังสามารถช่วยเพิ่มรสชาติที่ดีให้กับอาหารได้ ต่อไปนี้คือเคล็ดที่ไม่ลับเพื่อให้ได้โอเมก้า-3 ที่เพียงพอสำหรับร่างกาย
• อาหารเย็น : รับประทานปลาทะเลที่อาศัยในเขตน้ำเย็น เช่น แซลมอน แมคเคอเรล เทร้าท์ 1 ส่วน (อย่างน้อย 100 กรัม) สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง
• แซนวิช : เพิ่มปลากระป๋องในแซนวิชสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง
• สลัด : เพิ่มปลากระป๋องในสลัดสัปดาห์ละสัป 1 – 2 ครั้ง
• อาหารกลางวัน : รับประทานอาหารทะเลชนิดอื่นๆ เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่และหอยนางรม สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง
• อย่าทำลายคุณประโยชน์ด้วยการนำอาหารทะเลไปผัด ชุบแป้งหรือชุบเกล็ดขนมปังทอด
เพื่อการได้รับกรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างเพียงพอ ควรรับประทานปลาสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งและเพิ่มปลากระป๋องในแซนวิชหรือสลัดตามแต่โอกาส
มาดูกันว่าอาหารทะเลประเภทใดบ้างที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูงบ้าง
นอกจากไขมันโอเมก้า-3 จากอาหารทะเลทั้งหลายแล้วนั้นการรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ โอเมก้า-3 ก็ยังเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวก และยังจำเป็นต่อการเสริมสร้างร่างกายเป็นประจำทุกวันอีกด้วย