จะเลือกรับประทานอาหารอย่างไรเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์?
อาหารที่สามารถช่วยชะลอวัย แบ่งได้อย่างคร่าวๆ เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ สารต้านอนุมูลอิสระ และอีกกลุ่มคือ น้ำมัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดในบรรดาสารอาหารเหล่านี้ก็คือ วิตามินซี ซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างคอลลาเจน โดยคอลลาเจนจะเป็นเสมือน “กาว” ที่ทำหน้าที่เชื่อมให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแข็งแรง เช่น กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด พบได้ในชั้นหนังแท้ของผิว โดยช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นขึ้น
สารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยเรื่องผิวพรรณ (เนื่องจากจะช่วยทำงานร่วมกับวิตามินซี ในการเสริมสร้างความแข็งแรงผิว ทำให้ผิวของเราไม่เหี่ยวและหย่อนคล้อยก่อนวัย) คือเมล็ดองุ่น และบลูเบอร์รี่ ... เพราะจะช่วยปกป้องเนื้อเยื่อจากผลของสารต้านอนุมูลอิสระ
คอลลาเจน และสารอื่นๆ จะช่วยในเรื่องโครงสร้างของหลอดเลือดและผิวหนัง ซึ่งสารเหล่านี้จะทำหน้าที่ 2 อย่างคือ เสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ และช่วยทำให้สารระหว่างเซลล์แข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ ยังช่วยควบคุมจัดการอนุมูลอิสระ หรือพูดอีกอย่างก็คือ ช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเซลล์ เพราะอนุมูลอิสระเกิดได้จากหลายสิ่ง เช่น การสูบบุหรี่ มลภาวะ หรือรังสียูวี ไปจนถึงสารพิษในอาหารของเรา
การทำลายของอนุมูลอิสระส่งผลต่อเซลล์ปกติ โดยจะทำให้เซลล์นั้นกลายเป็นเนื้อเยื่อที่เสียหาย แสดงให้เห็นถึงสัญญาณแห่งวัยของผิว ... ความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ความลับอะไร บริเวณของร่างกายที่ทำให้แลดูแล้วแก่ได้ง่ายที่สุดคือ ใบหน้าและหลังมือ เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับแสงแดดเต็มๆ ... แต่ยังมีตัวช่วยที่จะช่วยปกป้องเซลล์และเนื้อเยื่อในบริเวณที่อ่อนไหวต่อความเสียหายเหล่านั้นได้ก็คือ สารต้านอนุมูลอิสระ
โอเมก้า-3 มีอยู่ในน้ำมันปลาและน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ รวมถึงปลา เช่น แซลมอน หรือทูน่า หรือเมล็ดแฟลกซ์ในแคปซูล และวอลนัท ส่วน โอเมก้า-6 ซึ่งอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผิวหนัง โดยน้ำมันที่มี โอเมก้า-6 ยังสามารถได้จากน้ำมันมะกอกคุณภาพดี น้ำมันพืชหีบเย็น อโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดพืชต่างๆ หรือน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสในรูปแบบแคปซูล
ความสมดุลระหว่างโอเมก้า-3 และ 6 เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากกรดไขมันจำเป็นเหล่านี้จะช่วยให้เซลล์เต่งตึงจากภายใน ที่คุณจะรู้สึกได้ว่า ผิวนุ่มชุ่มขึ้น และแห้งตึงน้อยลงอย่างแท้จริง
เข้าสู่ระบบ
;void(0);)
;void(0);)
