รับประทานอย่างไรให้สุขภาพดีเมื่อกำลังจะเป็นคุณแม่
คาซ คูกค์ ผู้แต่งหนังสือ ท้อง: คำแนะนำจริงใจสำหรับผู้มีครรภ์ (Up the Duff: The Real Guide to Pregnancy) ได้กล่าวไว้ว่า ที่จริงแล้วการรับประทานอาหารระหว่างตั้งครรภ์นั้นไม่ได้ยุ่งยากและไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยสักนิด
“เพียงแค่คุณต้องรับประทานโปรตีนและอาหารที่ให้พลังงาน รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่บางชนิดมากกว่าปกติเท่านั่นเอง เพราะคุณกำลังสร้างคนอีกคน (หรือสองคน) อยู่”
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรับประทานเท่ากับคนสองคน มหาวิทยาลัยดีกคิน ในวิคทอเรีย แนะนำว่าในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์นั้น คุณยังต้องการพลังงานเท่าเดิม
จากนั้น เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สองและสาม คุณจะต้องการพลังงานมากขึ้น คุณจึงอาจต้องได้รับคำแนะนำด้านโภชนาการบ้าง
เรื่องการตั้งครรภ์ & ก่อนตั้งครรภ์
เพิ่มปริมาณเหล็ก
ความจริง คุณรู้ไหมว่าเจ้าตัวน้อยที่กำลังก่อตัวขึ้นในตัวคุณนั้นต้องดึงธาตุเหล็กไปจากคุณเพื่อเก็บไว้สำหรับใช้ในชีวิตข้างนอกในช่วง 5-6 เดือนแรก? น่าทึ่งไหมล่ะ
ปริมาณเลือดที่หมุนเวียนทั่วร่างกายคุณจะเพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ และธาตุเหล็กมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างฮีโมโกลบิน – ซึ่งเป็นตัวส่งออกซิเจนผ่านทางกระแสเลือด
หนึ่งในห้าของผู้หญิงจะขาดธาตุเหล็กระหว่างการตั้งครรภ์ ดังนั้น ในระหว่างไตรมาสที่สองและสาม คุณต้องได้รับสารอาหารนี้ 22-36 มก (เกือบสองเท่าของผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์)
อาหารมีธาตุเหล็ก
เนื้อสัตว์ ไก่ อาหารทะเล ถั่ว ถั่วเลนทิล และ ผักใบเขียว
เพิ่มปริมาณข้าวและธัญพืช
สมาคมการตั้งครรภ์ชาวอเมริกัน (The American Pregnancy Association) อธิบายว่า “แหล่งพลังงานหลักของร่างกายหญิงมีครรภ์คือคาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นจากขนมปังและข้าว”
เลือกธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย (wholegrains) แทนที่จะเป็นชนิดที่ผ่านกระบวนการ อาหารเหล่านี้ให้ธาตุเหล็ก วิตามินบี ไฟเบอร์ และ โปรตีนส่วนหนึ่งด้วย
ธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย (โฮลเกรนส์)
ขนมปัง ข้าว พาสตา ข้าวบาร์เลย์ บัควีท ควินัว
ดูปริมาณกรดโฟลิคที่ได้รับ
โฟเลต หรือที่รู้จักกันว่ากรดโฟลิคที่เติมลงในอาหาร เป็นวิตามินบี ชนิดหนึ่งซึ่งป้องกันความผิดปกติของเส้นประสาทในทารกที่กำลังก่อตัว ดังนั้น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์จึงต้องแน่ใจว่าได้รับสารอาหารที่สำคัญนี้อย่างเพียงพอ
ผู้หญิงที่กำลังวางแผนจะตั้งครรภ์และหญิงมีครรภ์ในไตรมาสแรกควรได้รับปริมาณเสริมต่อวันอย่างน้อย 400 มคก. รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีโฟเลตสูง
อาหารที่มีโฟเลต
แอสปารากัส รำข้าวและธัญพืชอบกรอบ (bran flakes) บร็อคโคลี บรัสเซลสเปราท์ ถั่วชิคพี
รับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูงมากขึ้น
ไอโอดีนช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์และจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
ปริมาณไอโอดีนเสริมที่ควรได้รับต่อวันของผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ ผู้หญิงมีครรภ์ และผู้หญิงที่อยู่ระหว่างให้นมบุตรคือ 150 มคก. ต่อวัน
อาหารมีไอโอดีน
อาหารทะเล สาหร่าย ไข่ เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม
วิตามินจากแสงแดด
วิตามินดี สร้างขึ้นในผิวหนังด้วยปฏิกิริยาจากแสงแดด ช่วยให้ทารกมีกระดูกและฟันที่แข็งแรง และตามรายงานของโรงพยาบาลโรยัลวีเมนส์ในซิดนีย์ วิตามินดี ยังช่วยป้องกันกล้ามเนื้ออ่อนแรงในหญิงมีครรภ์ด้วย