เข้าสู่ระบบ
4 วิธี เติมวิตามินดีให้ร่างกายในช่วงหน้าหนาว
 |
 |
 |
 |
ฤดูหนาวเป็นช่วงที่ยากขึ้นที่เราจะได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ ดังนั้นมาดูกันว่ามีคำแนะนำดีๆ อะไรบ้างที่จะช่วยให้ร่างกายของเราดูดซึมวิตามินดีได้มากขึ้นในฤดูที่ตะวันส่องแสงได้น้อยลง
ในประเทศออสเตรเลียที่ดวงอาทิตย์ส่องสว่างแจ่มใสตลอดทั้งปี คุณอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขาดวิตามินดีในประเทศนี้
แต่คุณอาจจะแปลกใจที่ว่า ชาวออสเตรเลียถึงหนึ่งในสามขาดวิตามินดี จำนวนชั่วโมงที่พระอาทิตย์อยู่บนฟ้าในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนั้นเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ก็มีสาเหตุอื่นด้วย เช่น การมีสีผิวเข้มตามธรรมชาติหรือการการทำงานที่ต้องนั่งโต๊ะหรือทำงานกะดึก การมีวิตามินดี ที่น้อยจะทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคที่เกี่ยวกับกระดูก ในทางกลับกันถ้ามีเพียงพอก็จะทำให้ภูมิต้านทานแข็งแรงและสามารถต้านทานไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้
ดังนั้น เมื่อตะวันยังไม่ลับแสง จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะรักษาปริมาณวิตามินดีให้เต็มเปี่ยม การรับประทานปลาที่มันน้ำมันมาก และรับประทานไข่ให้มากขึ้นอาจจะพอช่วยได้ แต่ก็มีวิธีอื่นๆ ด้วย
;void(0);)
ตากแดดในช่วงฤดูหนาว
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม หากคุณมีผิวขาวไปจนถึงผิวสีมะกอก ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้แดดสัมผัสใบหน้า แขน มือบ้างสักสองถึงสามชั่วโมงช่วงเที่ยงวันในเวลาหนึ่งสัปดาห์ หากอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเทือกเขาสูง ควรออกไปข้างนอกเป็นเวลานานๆ หรืออยู่ในเขตที่พื้นผิวสะท้อนแสงมาก เช่น หิมะ หรือน้ำ และไม่จำเป็นต้องพกครีมกันแดด
หากคุณกังวลว่า ผิว แขน และมือจะแก่ก่อนวัยอันควร ถ้าเป็นไปได้ก็ให้แดดสัมผัสกับร่างกายส่วนอื่นแทนในระยะเวลาเท่ากัน
รับประทานเห็ดให้มากขึ้น
ผู้คนส่วนใหญ่ได้รับวิตามินดีเพียงร้อยละ 10 จากอาหาร แต่ถ้าเลือกรับประทานอย่างฉลาด คุณก็จะได้รับวิตามินแสงอาทิตย์นี้ในปริมาณที่เหมาะสมแน่นอนจากมื้ออาหารของคุณ เห็ดก็เหมือนกับผิวของเราคือจะตอบสนองต่อแสงอาทิตย์ด้วยการสร้างวิตามินดี ดังนั้น เห็ดบางชนิดจึงมีวิตามินดีมากขึ้นเพราะโดนรังสีอัลตราไวโอเลต
จำไว้ว่าเมื่อคุณซื้อเห็ดเหล่านี้ไปรับประทานที่บ้าน คุณไม่ได้ซื้อเพื่อรับประทานวิตามินดีเท่านั้น แต่เพราะเห็ดพวกนี้มีรสชาติอร่อยอีกด้วย
;void(0);)
ทดลองผสมผสานอาหาร
การเพิ่มวิตามินดี ผ่านการรับประทานอาหารนั้นอาจเป็นเรื่องยากกว่าที่คุณคิด แต่ก็มีวิธีเพิ่มวิตามินดี ที่คุณอาจจะได้รับจากอาหารอยู่
ตับวัว ชีส ไข่แดง และปลามีไขมัน เช่น ปลาซาร์ดีน และปลาแซลมอน มาการีน และอาหารที่มีการเติมสาร เช่น เห็ด นม และผลิตภัณฑ์ทำจากนมล้วนแต่มีวิตามินดี ทั้งสิ้น
หากคุณเลือกอาหารที่มีวิตามินดี ที่ไม่มีไขมันหรือมีไขมันต่ำ ให้รับประทานคู่กับอาหารจากแหล่งไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น มะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก ลูกนัทหรือถั่ว ก็ช่วยในการดูดซึมได้เช่นกัน
ใช้ครีมกันแดดอย่างระมัดระวัง
มีหลักฐานบางชิ้นชี้ว่า ครีมกันแดดนั้นอาจมีผลต่อความสามารถในการดูดซึมแสงแดด ทำให้ส่งผลต่อปริมาณวิตามินดี ของเราด้วย ดังนั้น ใช้ให้พอเหมาะพอควร เพราะร่างกายเราสามารถดูดซึมวิตามินดีได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น การสัมผัสรังสียูวีเป็นเวลานานนั้น นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วยังทำร้ายผิวของเราได้
ดังนั้น หากคุณมีปัญหาขาดวิตามินดี คุณอาจต้องทบทวนสักหน่อยก่อนจะใช้วิตามินดีในช่วงหน้าหนาว หรือไม่ก็ใช้ครีมกันแดดที่ปล่อยให้รังสียูวีบางส่วนสามารถเข้าสู่ผิวหนังเพื่อให้ร่างกายสร้างวิตามินดีได้
หมั่นตรวจสุขภาพ หากคุณกังวลเกี่ยวกับปริมาณวิตามินดี ให้ไปพบแพทย์แล้วขอตรวจเลือดเพื่อดูว่า คุณมีวิตามินดีเพียงพอไหม หากคุณมีความเสี่ยงที่จะมีวิตามินดีต่ำ คุณอาจจะต้องมาพบแพทย์และตรวจร่างกายบ่อยๆ เพื่อดูปริมาณวิตามินดี
คุณหมออาจจะแนะนำให้รับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินดี หลังจากที่มีวิตามินดีเพียงพอแล้ว การจะรักษาให้มีปริมาณเหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร หากเรารับประทานอาหารที่ดีและอาบแดดในออสเตรเลียเสียบ้างในปริมาณที่พอเหมาะพอควร
 |
 |
 |
|
|
|
|
