เอ็กไคนาเซีย หรือดอกไม้รูปทรงกรวยสีม่วงที่รู้จักกันดี เป็นสมุนไพรประเภทไม้ยืนต้นท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยชนพื้นเมืองอเมริกันเพื่อรักษาการบาดเจ็บและการเจ็บป่วย ในเวลาต่อมา ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 เอ็กไคนาเซียได้ถูกยอมรับนำมาใช้กันโดยกลุ่มนักนิยมสำหรับบรรเทาโรค รวมถึงรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ โดยในปัจจุบันดอกไม้เอ็กไคนาเซียได้ถูกค้นพบอีกครั้ง เมื่อคนหันกลับมาสนใจการใช้สมุนไพรธรรมชาติเป็นทางเลือกสำหรับสุขภาพกันมากขึ้น
• เอ็กไคนาเซีย ในมุมมองของวิทยาศาสตร์
แต่ดั้งเดิมมา ดอกไม้เอ็กไคนาเซียถูกใช้เพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยของโรคไข้หวัด เช่น เจ็บคอ และ น้ำมูกไหล อย่างไรก็ดี การศึกษาในยุคปัจจุบันได้ชี้ให้เห็นกลไกประโยชน์ที่กว้างขึ้นของเอ็กไคนาเซีย ในการศึกษาหลายชิ้นได้ชี้ว่า ผลของเอ็กไคนาเซียอาจเกิดจากความสามารถในการเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เข้าใจกันว่าเอ็กไคนาเซียสามารถช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวกลุ่มที่สำคัญมาก ที่เรียกว่า “ฟาโกไซท์” ซึ่งฟาโกไซท์นี้เป็นเซลล์ชนิดพิเศษในการช่วยร่างกายของเราในการต่อสู้กับเชื้อโรคนั่นเอง
• กำจัดหวัดให้อยู่หมัด ด้วย เอ็กไคนาเซีย!!
มีการทดลองทางคลินิกหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า ไม่เพียงแต่เอ็กไคนาเซียมีภูมิคุ้มกันที่จะช่วยลดระยะเวลาการเกิดอาการไข้หวัดแล้ว ยังช่วยลดความรุนแรงของอาการด้วย โดยการทดลองทางคลินิกชิ้นหนึ่งได้แสดงให้เห็นว่าการได้รับเอ็กไคนาเซียขนาด 1,800 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยบรรเทาอาการจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้
• อะไรที่ทำให้เอ็กไคนาเซียออกฤทธิ์ได้ผล?
เอ็กไคนาเซียประกอบด้วยสารเคมีที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหลายชนิด เช่น อัลไคลาไมด์ กรดซิโคริก โพลีแซคคาไรด์ และไกลโคโปรตีน
นักนิยมสมุนไพรจำนวนมากจัดให้ อัลไคลาไมด์ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด สามารถรับรู้ถึงสารประกอบที่สำคัญตัวนี้ของเอ็กไคนาเซียได้เมื่อคุณรับประทานเอ็กไคนาเซียชนิดน้ำ อัลไคลาไมด์จะให้รสซ่าติดลิ้น ซึ่งรสซ่าๆนี้เองเป็นเครื่องบอกปริมาณของสารลไคลาไมด์ในเอ็คไคนาเซีย ซึ่งบอกถึงคุณภาพของเอ็กไคนาเซียชนิดนั้น
นอกจากสมุนไพรเอ็กคานาเซียที่สามารถช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยของโรคไข้หวัดแล้วนั้น การรับประทานอาหารเสริมร่างกายเป็นประจำ ก็ช่วยลดความเสี่ยงของอาการไข้หวัดและเพิ่มภูมิคุ้มกันอีกด้วย