เมื่อความเครียดดูดพลังงานของคุณไปหมด เติมพลังด้วยกลยุทธ์วิธีป้องกันต่างๆ เหล่านี้
วันส่งงานไล่หลังคุณมาแล้ว คุณทำงานจนดึก ต้องตื่นแต่เช้า ซดแต่กาแฟ แล้วย่างก้าวเข้าสู่เส้นชัย และคุณก็ทำสำเร็จ เฮ้อ ฟิ้ว?
แน่ล่ะ สถานการณ์นี้ไม่น่ากลัวหากเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งในหนึ่งเดือน แต่หากวนไปวนมา 'ซ้ำๆ' บ่อยเกินไป และคุณเริ่มรู้สึกหมดแรง ก็อาจจะปั่นป่วนหรือหดหู่
“ความเครียดมีผลกระทบต่อการปรับตัว ทำให้สูญเสียเซลล์สมอง” ดร. เครก ฮัสต์ ผู้เขียนเรื่อง Mindfulness for Life และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังเข้มแข็งและสร้างสรรค์ ที่แผนกแพทย์เวชปฏิบัติ แห่งมหาวิทยาลัยโมนาช กล่าว “ความเครียดยังไปกระตุ้นการทำงานของ อมิกดาลา (amygdala) เนื้อเยื่อประสาทของสมองลักษณะเหมือนอัลมอนด์ที่อยู่ในส่วนของสมองแต่ละข้างและสมองส่วนหน้า (pre-frontal cortex) หากคุณรู้สึกเครียดอยู่ตลอดเวลา อมิกดาลา ก็จะโตขึ้นและตอบสนองมากขึ้น”
องค์กรสุขภาพจิตอธิบายว่า ความเครียดยังไปกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนบางชนิดอีกด้วย “เมื่อคุณมีความเครียด ระบบประสาททั้งหมดของคุณจะตอบสนอง…. อะดรีนาลีน (adrenaline) และคอร์ติซอล (cortisol) จะถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดของคุณ ฮอร์โมนเหล่านี้เร่งอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันโลหิต และการเผาผลาญ”
ขณะที่มันอาจช่วยให้คุณทำงานส่งทันตามกำหนดเวลานั้น ในระยะยาวมันจะนำไปสู่ความเหนื่อยหน่าย ทั้งอาการอ่อนล้าทางจิตใจ ร่างกาย และอารมณ์
ลองใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อควบคุมระดับความเครียดให้ได้ และหลีกเลี่ยงอาการพลังงานที่แห้งขอด
1. สำรวจตัวเอง
ดั๊ก ผู้เขียนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวใน Reach Out กล่าวว่า หลังจากที่เขาต้องเผชิญกับอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง เขาก็เริ่มติดนิสัยการสำรวจความสุขของตัวเอง
“สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมทำ” เขากล่าว“ คือการใช้เวลาครู่หนึ่ง อย่างสม่ำเสมอ เพื่อหยุดคิดถึงวิธีที่ผมจะดำเนินต่อไป และอะไรบ้างที่จะมากระทบต่อวิธีการนั้น”
ดั๊ก ทำเช่นนี้ด้วยการจดจ่อกับร่างกายและจิตใจของเขา “ผมถามตัวเองว่ารู้สึกเหนื่อยไหม คิดอะไรอยู่ หิวหรือเปล่า” นอกจากนี้ เขายังจดบันทึกและพยายามจัดระเบียบชีวิตตัวเองด้วย
2. สร้างรูปแบบที่จะทำให้สำเร็จในตอนเช้า
เริ่มวันใหม่ตามที่คุณตั้งใจจะทำอย่างต่อเนื่อง
โอลิเวอร์ เกรย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและพลังงาน รวมทั้งยังเป็นคอลัมนิสต์ของสำนักข่าว Huffington Post ผู้แนะนำเรื่องกิจวัตรในตอนเช้า โดยให้ตัดเรื่องเทคโนโลยีออกให้หมด เพิ่มการเคลื่อนไหวให้มากที่สุด บวกกับโภชนาการที่ดี
เคลื่อนไหว 20 นาที เขาให้คำแนะนำว่า – มันไม่สำคัญว่าจะเป็นแบบไหน จะเล่นโยคะที่บ้าน เดิน ปั่นจักรยานไปทำงาน หรือออกกำลัง 20 นาที ที่โรงยิม
ดื่มชาเขียวคู่กับอาหารเช้าที่มีพลังงานสูง และการผสมผสานสิ่งที่เขาโปรดปรานคือ โจ๊กข้าวโอ๊ตหรือผักโขมป๊อปกับเมล็ดป่านเปลือกเมล็ดเชีย เก๋ากี้, บลูเบอร์รี อบเชยและนมอัลมอนด์
3. สร้างพื้นที่แห่งความสุข
ปรับความสมดุลระหว่างการทำงาน และของชีวิต มันจะทำให้ทั้งสองสิ่งดีเลิศมากขึ้น
“แม้ในช่วงแรกจะเป็นเพียงแค่สัปดาห์ละครั้ง คิดวิธีที่จะใช้เวลาในแต่ละสัปดาห์ทำสิ่งที่คุณพอใจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จะนำเสียงหัวเราะกลับมาในชีวิตของคุณ” แนนซี่ วิโต้ ผู้ฝึกสอนการใช้ชีวิต และเป็นผู้เขียนในสำนักข่าว Huffington Post
เธอเขียนไว้ว่า “บางครั้งคุณอาจสนุกสนานกับการไปชายหาด เดินป่าตามเส้นทางธรรมชาติ รับประทานอาหารเย็นกับคนสำคัญ พูดคุยเรื่องต่างๆ กับเพื่อนสนิทของคุณทางโทรศัพท์ หรือแม้แต่ไปชมภาพยนตร์”
“ด้วยตารางงานที่ยุ่งเหยิงของเรามันจึงกลายเป็นเรื่องง่ายมากที่จะหมกมุ่นกับการผูกมัดอย่างที่เราไม่เคยรู้ตัว จงใช้เวลากับสิ่งต่างๆ และผู้คนที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุข
มาลองใช้เคล็ดลับหลีกเลี่ยงสิ่งทำให้เกิดความเหนื่อยหน่ายวันนี้
• ใช้เวลาของคุณในการนอนหลับ 8 ชั่วโมง
• รักษาความชุ่มชื้นของน้ำในร่างกายคุณตลอดทั้งวัน
• นอนหลับสักงีบเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อย
• จำไว้ว่าคุณควรยืดเหยียดร่างกายบ้างหากต้องนั่งทั้งวัน
• งดคาเฟอีน ถ้าทำให้คุณหลุดจากการที่ให้มันมักเป็นตัวช่วยอาการอ่อนเพลียของคุณในช่วงบ่าย
• ติดต่อกับเพื่อนสนิท
• สนใจแค่ 'สิ่งที่ต้องทำ' ในแต่ละวัน ทำทีละอย่าง อย่าทำทีละหลายอย่างอย่างพร้อมกัน!