รู้หรือไม่ว่ายิ่งสูงวัยเรายิ่งควรให้ความสนใจกับสารอาหารชนิดใดเป็นพิเศษ? เคท เฟอร์กูสัน นักธรรมชาติบำบัด ได้แนะนำถึงสารอาหารที่จำเป็น 4 ชนิด เพื่อสุขภาพที่ดีในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป
การมีสุขภาพที่ดีตลอดช่วงชีวิตของเรานั้นจะขึ้นอยู่กับความสมดุลของการรับประทานอาหาร จากอาหารสดหลากหลายชนิดซึ่งให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นทั้งหมดที่ร่างกายเราต้องการ แต่ในบางครั้งความต้องการสารอาหารก็อาจเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพและความต้องการของร่างกาย
ซึ่งการได้รับสารอาหารทั้ง 4 ชนิดต่อไปนี้อย่างเพียงพอ อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีในขณะที่คุณก้าวเข้าสู่ช่วงอายุครึ่งหลังของชีวิต
สังกะสี (Zinc)
สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นที่พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกาย เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาของเอนไซม์ต่าง ๆ มากกว่า 200 ชนิด ซึ่งมากกว่าแร่ธาตุอื่น ๆ เนื่องจากสังกะสีเป็นสารอาหารสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานมากมาย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีเราจึงจำเป็นต้องได้รับสังกะสีอย่างเพียงพอ และเมื่อเราอายุมากขึ้น เราจำเป็นต้องมีสังกะสีเพื่อช่วยในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ส่งเสริมสุขภาพดวงตา และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
โดยสังกะสี (Zinc) จะพบมากในอาหารที่อุดมด้วยสังกะสี ได้แก่ หอยนางรม หอย ธัญญพืขไม่ขัดสี พืชตระกูลถั่ว และเมล็ดฟักทอง
วิตามินอี
วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีหน้าที่หลักในการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพของผู้สูงวัย เนื่องจากวิตามินอีมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพของหัวใจ ช่วยลดการเกิดออกซิเดชันของคอเลสเตอรอล หรือที่เรียกว่าคอเลสเตอรอล "ชนิดไม่ดี" เป็นที่รับรู้กันว่าการเกิดปฏิกริยาออกซิเดชัน (การเกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ) กับ LDL คอเลสเตอรอล มีผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งได้
วิตามินอีสามารถพบได้ในน้ำมันพืชสกัดเย็น โดยเฉพาะน้ำมันจากจมูกข้าวสาลี ถั่ว และเมล็ดพืช ซึ่งเป็นแหล่งที่อุดมด้วยวิตามินอี และนอกจากนี้แหล่งอาหาร ที่ให้วิตามินอีในปริมาณที่เพียงพอต่อสุขภาพนั้นก็ยังมี มันเทศ ผักโขม และหน่อไม้ฝรั่งอีกด้วย
ซีลีเนียม
ซีลีเนียมเป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกับวิตามินอี และซีลีเนียมยังเป็นส่วนหนึ่งของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่ากลูตาไธโอน เปอร์ออกซิเดสอีกด้วย เอนไซม์นี้จะเป็นประโยชน์เมื่อเราอายุมากขึ้น โดยจะช่วยรักษาความใสของเลนส์ตาและยังมีส่วนช่วยรักษาสุขภาพดวงตา รวมถึงสุขภาพของหัวใจ และภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย
ปริมาณซีลีเนียมในอาหารจะขึ้นอยู่กับระดับซีลีเนียมในดิน โดยอาหารที่มีซีลีเนียมสูง ได้แก่ ถั่วบราซิล กระเทียม ปลา อาหารทะเล และจมูกข้าวสาลี
วิตามินดี
วิตามินดีมีหน้าที่หลักในด้านของการดูดซึมแคลเซียมเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก และแม้ว่าหน้าที่นี้จะเป็นหน้าที่สำคัญของวิตามินดี แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าวิตามินนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรามีอายุมากขึ้น
น่าเสียดายที่กลับพบการขาดสารอาหารชนิดนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยพบว่าชาวออสเตรเลียจำนวนมากขาดวิตามินดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ ซึ่งวิตามินดีนั้นมีส่วนสำคัณในการช่วยรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและลดความเสี่ยงของการหกล้มและกระดูกหักในผู้สูงอายุได้
แหล่งของวิตามินดี ได้แก่ ปลาที่มีไขมัน ไข่ และนมเสริมวิตามินดี แต่ในชีวิตประจำวันเราอาจได้รับวิตามินดีจากอาหารปริมาณน้อยมาก เพราะความเป็นจริงแล้วแหล่งวิตามินดีกว่า 90% ของวิตามินดีในร่างกาย มาจากการสร้างวิตามินดีของจากการได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ และการได้รับรังสี UVB ทางผิวหนังเป็นหลักนั่นเอง
เข้าสู่ระบบ
;void(0);)
;void(0);)
