ตะคริวที่กล้ามเนื้อสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกเวลา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในขณะที่คุณกำลังเคลื่อนไหว นั่งอยู่กับที่ ออกกำลังกาย หรือแม้แต่ขณะนอนหลับ แต่อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่สามารถกระตุ้นให้เราเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อได้
ตะคริวคืออะไร?
ตะคริวที่กล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อหดเกร็ง เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อของคุณหดเกร็งโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่สามารถควบคุมและคลายกล้ามเนื้อได้ สามารถพบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในผู้สูงอายุและนักกีฬา โดยส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
กล้ามเนื้อที่มักเป็นตะคริวมากที่สุดคือกล้ามเนื้อน่อง ต้นขา และกล้ามเนื้อหลังต้นขา ตะคริวซึ่งเกิดที่กล้ามเนื้อน่อง ภาษาอังกฤษจะเรียกว่า “charley horses” ตะคริวที่ขาซึ่งเกิดขึ้นในตอนกลางคืนเมื่อคุณพักผ่อนหรือนอนหลับเรียกว่า "ตะคริวตอนกลางคืน" (nocturnal leg cramp)
อาการตะคริวของกล้ามเนื้อมีระดับตั้งแต่ ไม่รุนแรง กล้ามเนื้อกระตุกแบบรำคาญไปจนถึงรู้สึกไม่สบาย และมากไปจนถึงมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อรุนแรง เมื่อจับกล้ามเนื้อที่หดเกร็งจะรู้สึกเกร็งแข็งกว่าปกติ และอาจมองเห็นแนวกล้ามเนื้อบิดเบี้ยว โดยทั่วไปอาการหดเกร็งอาจเป็นได้ตั้งแต่ระดับวินาทีไปจนถึง 15 นาที หรือนานกว่านั้น และอาจเกิดขึ้นซ้ำได้อีกหลายครั้งก่อนที่อาการจะหายไป
อะไรบ้างที่อาจทำให้เป็นตะคริว ?
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อไม่เพียงพอ
กล้ามเนื้อเป็นกลุ่มมัดเส้นใยกล้ามเนื้อที่มีการหดตัวและขยายตัวเพื่อทำให้เกิดการเคลื่อนไหว การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำจะช่วยให้เส้นใยกล้ามเนื้อยาวขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อสามารถหดและเกร็งตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อคุณออกกำลังกาย
ความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ
เมื่อร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะไม่ปกติ คุณอาจมีโอกาสเกิดตะคริวได้มากขึ้น ซึ่งอาจมีผลให้การตอบสนองแบบอัตโนมัติจากเส้นประสาทไขสันหลังเปลี่ยนแปลงไปได้ การออกแรงมากเกินไปจะมีผลให้ปริมาณออกซิเจนในกล้ามเนื้อลดลง ทำให้มีการสะสมของเสียและเกิดกล้ามเนื้อหดเกร็ง เมื่อเริ่มเป็นตะคริว ไขสันหลังจะกระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัว
การขาดน้ำและอิเล็กโทรไลต์บกพร่อง
เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อบางส่วนจะใช้แร่ธาตุ อิเล็กโทรไลต์ และสารเคมีหลากหลายชนิดเพื่อการหดตัวและคลายตัว ซึ่งสารสำคัญเหล่านี้ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และโซเดียม การรับประทานที่ได้สารอาหารไม่เพียงพอ ภาวะขาดน้ำ การอาเจียน และอาการท้องร่วง เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่คาดว่าอาจมีผลรบกวนสมดุลของแร่ธาตุและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย และทำให้กล้ามเนื้อมีโอกาสเป็นตะคริวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักกีฬา หลักฐานที่แสดงว่าการขาดน้ำและการมีแร่ธาตุบกพร่องทำให้เกิดตะคริวนั้นยังไม่แน่ชัดนัก เร็วๆ นี้มีการศึกษาจำนวนมากในนักกีฬาที่แข่งขันกันในด้านความทนทาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขาดน้ำไม่มีผลต่อการเป็นตะคริว
ความเครียด
ความเครียดอาจทำให้เกิดอาการเจ็บ ตึง หรือปวดกล้ามเนื้อ รวมทั้งการที่กล้ามเนื้อหดเกร็งจากอาการปวด
ตะคริวที่ขาตอนกลางคืน
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วตะคริวที่ขาตอนกลางคืน อาการจะหายได้เองหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที แต่ก็ไม่มีใครอยากเป็นและมันรบกวนการนอน โดยปกติมักจะเป็นที่น่องและเท้ามากที่สุด ตะคริวที่ขาตอนกลางคืนมักพบได้บ่อยในผู้หญิงและผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดได้กับทุกคนเช่นกัน อาการตะคริวอาจเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ไม่กี่วินาที และมักจะมีอาการอยู่นานไม่เกิน 10 นาที หลังจากเป็นตะคริวคุณอาจรู้สึกเจ็บหรือขามีกำลังลดลงในวันรุ่งขึ้น
สาเหตุที่อาจเป็นไปได้ของตะคริวที่ขาตอนกลางคืน ได้แก่:
• การนั่งเป็นเวลานาน
• ใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป
• การยืนเป็นเวลานาน
• การนั่งไม่ถูกท่าทาง
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นตะคริว
ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นตะคริวมากที่สุด ได้แก่ ทารกและเด็กเล็ก และผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ตะคริวที่กล้ามเนื้อสามารถพบได้บ่อยมากในหมู่นักกีฬาที่ใช้ความทนทาน และในผู้สูงอายุที่ทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังอย่างหนัก
เมื่อร่างกายของนักกีฬาอยู่ในสภาพไม่พร้อม เช่น ในช่วงก่อนฤดูการแข่งขัน ก็จะมีโอกาสเกิดความอ่อนล้าง่ายขึ้น และมักเกิดตะคริวในช่วงท้ายของการออกกำลังกายหนักๆ หรือออกกำลังเป็นเวลานาน หรือ 4 ถึง 6 ชั่วโมงหลังจากนั้น
ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อได้ง่ายเนื่องจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามอายุ ซึ่งเริ่มในช่วงกลางอายุ 40 และจะเสียมวลกล้ามเนื้อเร็วขึ้นหากไม่ค่อยใช้งาน เมื่อคุณอายุมากขึ้นกล้ามเนื้อของคุณจะไม่สามารถทำงานได้หนักหรือรวดเร็วเหมือนเดิม
ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อมากขึ้น ได้แก่:
• กำลังเจ็บป่วย หรือมีน้ำหนักเกิน
• หักโหมมากเกินไประหว่างทำงานหรือออกกำลังกาย
เข้าสู่ระบบ
');void(0);)
');void(0);)
