โรคภูมิแพ้อาจก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่หลากหลาย และสร้างความหงุดหงิดให้กับคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ทราบว่าคุณแพ้อะไร
เมื่อมีคนเป็นโรคภูมิแพ้ หมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาต่อบางสิ่งมากเกินไป สิ่งนั้นเรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งไม่มีผลต่อคนส่วนมาก
การมีปฏิกิริยามากเกินไปนี้ทำให้เกิดการอักเสบซึ่งทำให้มีอาการต่างๆ ของโรคภูมิแพ้ และส่งผลต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น อาการแพ้อย่างโรคผื่นผิวหนังอักเสบและลมพิษส่งผลต่อผิวหนัง โรคหอบหืดส่งผลต่อปอด และไข้ละอองฟางส่งผลต่อจมูกและดวงตา โรคภูมิแพ้ที่ร้ายแรงที่สุดคือ อาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (anaphylaxis) ซึ่งอาจส่งผลทั่วร่างกาย
ชาวออสเตรเลียราว 20 เปอร์เซ็นต์เป็นโรคภูมิแพ้บางชนิด โดยมีอาการต่อสารก่อภูมิแพ้ทั่วไปที่พบได้ในไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง ละอองเกสร แมลง เชื้อรา อาหาร
อาการ
โรคภูมิแพ้อาจส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับโรคภูมิแพ้ที่เป็น และการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของผู้ที่เป็นโรค อาการทั่วไปของโรคภูมิแพ้นั้นได้แก่
- ท้องไส้ปั่นป่วน
- ริมฝีปาก ใบหน้า หรือตาบวม
- ลิ้นหรือคอบวม
- ผื่นผิวหนัง
- จามและมีน้ำมูก
- คัน ตาแดง และน้ำตาไหล
- เสียงหายใจหวีดหรือไอไม่หยุด
สารก่อภูมิแพ้ทั่วไป
สารก่อภูมิแพ้มีหลายชนิด แต่ที่พบได้ทั่วไปได้แก่
- อาหาร สารก่อภูมิแพ้สำหรับโรคภูมิแพ้อาหารคือไข่ นมวัว (ผลิตภัณฑ์จากนมวัว) ถั่วลิสง ถั่วยืนต้น งา ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ปลา และอาหารทะเลอื่น ๆ อาการแพ้อาหารมีระดับความรุนแรงตั้งแต่แพ้เล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง ซึ่งรวมไปถึงหน้าบวม ลมพิษ ปวดท้อง ไปจนถึงรุนแรง ซึ่งเป็นระดับที่ส่งผลต่อการหายใจ
-พืช อาการแพ้นี้มักจะเกิดจากละอองเกสรจากหญ้าและพืช ซึ่งก่อให้เกิดอาการไข้ เช่น น้ำมูกไหล คันในจมูก น้ำตาไหล นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดผื่นแพ้สัมผัสจากพืชในคนบางกลุ่มได้อีกด้วย
- แมลง ไรฝุ่น รวมทั้งพิษจากผึ้ง เห็บ มด และตัวต่อ อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ อาการแพ้ที่เกิดจากแมลงกัดต่อยส่วนใหญ่แล้วมีระดับความรุนแรงเล็กน้อยไปถึงปานกลาง แต่อาการแพ้ที่เกิดจากพิษแมลงต่อยก็เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ระดับรุนแรงในประเทศออสเตรเลีย ส่วนไรฝุ่นนั้นอาจก่อให้เกิดภาวะหอบหืด ผื่นแพ้อักเสบ และไซนัสอักเสบเรื้อรัง
- เห็บ พื้นที่ในร่มและกลางแจ้งที่มีความชื้นและมีเห็บ อาจก่อให้เกิดภาวะหอบหืดในคนบางกลุ่ม
- สัตว์เลี้ยง โดยทั่วไปแล้วอาการแพ้สัตว์เลี้ยงมักเกิดจากน้ำลายสุนัข ต่อมไขมันในผิวของแมว และสะเก็ดผิวหนังจากทั้งสุนัขและแมว อาการแพ้ทั่วไปคือไข้ละอองฟางและหอบหืด
-สารเคมี สารเคมีที่เป็นสารก่อภูมิแพ้อาจรวมไปถึงสารเคมีที่ใช้ในเชิงอุตสาหกรรมและสารเคมีภายในบ้าน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเหล่านั้น เช่น ถุงมือยาง เครื่องสำอาง และผงซักฟอก โดยอาจก่อให้เกิดผื่นระคายสัมผัส
รูปแบบการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุดคือ
- รับประทาน - รับประทานอาหารที่แพ้
- สูดดม - เมื่อมีสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ละอองเกสร
- สัมผัส - เมื่อผิวหนังสัมผัสโดนสารก่อภูมิแพ้ เช่น ถุงมือยาง
ทำไมบางคนเป็นโรคภูมิแพ้ แต่บางคนกลับไม่เป็น
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่า การที่ระบบภูมิคุ้มกันมักจะมีปฏิกิริยามากเกินไปต่อสารหนึ่ง ๆ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่น ๆ มีแนวโน้มที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม
การวินิจฉัย
การตรวจภูมิแพ้ รวมถึงการตรวจเลือดและการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง สามารถใช้เพื่อช่วยระบุหรือยืนยันว่าสารก่อภูมิแพ้ตัวใดที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ การตรวจเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือไข้ละอองฟาง หรือกรณีที่คาดว่าแมลง อาหาร หรือยาเป็นสารก่อภูมิแพ้
สำหรับภูมิแพ้อาหาร การให้งดหรือรับประทานอาหารที่สงสัยว่าเป็นสารก่อภูมิแพ้สามารถใช้เพื่อยืนยันหรือระบุภูมิแพ้อาหารได้ แต่การตรวจภูมิแพ้ด้วยวิธีนี้ควรดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์เท่านั้น หากคุณเป็นไข้ละอองฟางหรือไซนัสอักเสบในเวลาเดิมทุกปี ก็เป็นไปได้ว่าคุณแพ้ละอองเกสรหรือสารจากพืชอื่น ๆ ที่อยู่ในอากาศในช่วงเวลานั้นของปี
การป้องกันและการรักษา
เมื่อระบุสาเหตุของโรคภูมิแพ้ได้แล้ว การหลีกเลี่ยงหรือลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ก็ช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้ การรักษาโดยใช้ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์และยาตามแพทย์หรือเภสัชกรสั่ง อาจช่วยให้จัดการหรือลดอาการภูมิแพ้ลงได้ อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการข้อกังวลด้านสุขภาพของคุณ
หมายเหตุสำคัญ
หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณหรือคิดว่าเป็นโรคภูมิแพ้ ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพซึ่งอาจส่งต่อคุณไปยังนักกำหนดอาหาร แพทย์ผิวหนัง หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันวิทยา/ภูมิแพ้