มีวิธีการอยู่จำนวนหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณตอบสนองต่อความเครียดอย่างเหมาะสมและลดผลกระทบทางอ้อมที่ความเครียดระดับต่ำมีต่อสุขภาพของคุณ ต่อไปนี้คือวิธีการง่าย ๆ 5 วิธีการในการเริ่มตอบสนองต่อความเครียดอย่างเหมาะสม
ถึงแม้ว่าความเครียดระดับต่ำจะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อยมาก โดยชาวออสเตรเลียถึง 3 ใน 4 กล่าวว่า ความเครียดระดับต่ำส่งผลต่อชีวิตของพวกเขา แต่ข่าวดีคือ คุณสามารถลองใช้วิธีการได้หลากหลายเพื่อช่วยให้ตัวคุณเองรู้สึกดีขึ้น เพียงแค่เรียนรู้และทำความเข้าใจว่าความเครียดระดับต่ำคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไรก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ แต่ก็มีบางขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดความเครียดและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดจากความเครียด และเมื่อคุณทราบว่าความเครียดสะสมระยะยาวอาจส่งผลต่อสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของคุณ ก็ไม่แปลกเลยที่คุณจะลองใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อจัดการกับความเครียด ต่อไปนี้คือ 5 วิธีการตอบสนองต่อความเครียดที่คุณสามารถลองใช้ได้
นอนหลับเต็มอิ่ม
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า คนเราจะรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดและเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ยากขึ้น หากเราง่วง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสาเหตุก็คือ เมื่อเรานอนหลับไม่เพียงพอ เรามีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านั้นโดยใช้อารมณ์มากขึ้น มีหลายวิธีการที่คุณสามารถใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพการหลับได้ ตั้งแต่หลับและตื่นนอนเป็นเวลา ไปจนถึงจัดห้องนอนให้เหมาะแก่การนอนหลับ นอกจากนี้ การหาเวลาทำสมาธิให้จิตใจปลอดโปร่งเป็นเวลา 10 นาทีต่อวันก็สามารถช่วยได้
รับประทานผักผลไม้ให้มาก
ผลการวิจัยในประเทศออสเตรเลียที่เผยแพร่ในปี 2564 ชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่รับประทานผักผลไม้เป็นประจำมีความเครียดน้อยกว่าผู้ที่รับประทานผักผลไม้น้อย เหตุผลนั้นยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อว่าสาเหตุสำคัญคือการที่ผักผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งเชื่อมโยงกับสุขภาพจิตที่ดี พยายามรับประทานผักอย่างน้อยห้าครั้งและผลไม้อย่างน้อยสองครั้งต่อวัน
ขยับร่างกายมากขึ้น
งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า การทำกิจกรรมที่ใช้ร่างกายช่วยป้องกันความเครียดได้ นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นก็ชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายติดต่อกัน 30 นาทีช่วยลดระดับความเครียดลงได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากออกกำลังกาย ซึ่งอาจเกิดจากผลกระทบเชิงบวกที่การออกกำลังกายมีต่อสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ อย่างไรก็ดี งานวิจัยอื่น ๆ ก็ชี้ให้เห็นว่า ต้องออกกำลังกายเป็นประจำอย่างเพียงพอตลอดสัปดาห์เท่านั้นจึงจะเห็นผล ดังนั้นจึงควรตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายแบบหนักปานกลางเป็นเวลา 150-300 นาทีต่อสัปดาห์ พยายามทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายในหลาย ๆ วันต่อสัปดาห์ หรือจะให้เห็นผลดีก็ควรทำทุกวัน
ช่วยเหลือผู้อื่น
วิธีการนี้อาจฟังดูเหมือนการเพิ่มความเครียดด้วยการเพิ่มรายการสิ่งที่ต้องทำ แต่งานวิจัยเสนอว่า การช่วยเหลือผู้อื่นช่วยลดความเครียดได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อคุณช่วยเหลือหรือสนับสนุนผู้อื่น คุณจะสร้างเกราะป้องกันผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากสิ่งก่อความตึงเครียดในชีวิตประจำวันได้ และการช่วยเหลือผู้อื่นนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องสำคัญก็ได้จึงจะเห็นผล เรื่องง่าย ๆ เช่นการเปิดประตูให้คนอื่นหรือช่วยคนอื่นเอื้อมหยิบของในห้างสรรพสินค้า ก็สามารถช่วยป้องกันความเครียดได้
การสนับสนุนการตอบสนองต่อความเครียดอย่างเหมาะสม อาหารเสริมบางชนิดสามารถช่วยบรรเทาและคลายความเครียดระดับต่ำและการตึงตัวของเส้นประสาทได้ เช่น
อาหารเสริมวิตามินบี
การรับประทานอาหารเสริมวิตามินบีช่วยสนับสนุนการตอบสนองต่อความเครียดอย่างเหมาะสมในร่างกายได้